เจ้าราชครูหลวงเป็นพระเถระสำคัญรูปหนึ่ง เป็นเจ้าวัดโพนสะเม็กชานเมืองเวียงจันทน์ จึงเรียกท่านว่า "ท่านราชครูโพนสะเม็ก" เป็นอาจารย์บอกอัฐธรรมกัมมัฏฐานแก่ชาวเมืองและเจ้านายในราชตระกูล จึงมีผู้นับถือมาก มีเกียรติคุณโด่งดังเป็นที่เคารพของสามัญชนทั่วไปและเจ้านายในราชตระกูล ในระหว่าง พ.ศ. 2187 - 2254 พระเจ้าสุรยวงศา โอรสพระเจ้าด่อนคำได้ครองราชสมบัติ ณ เวียงจันทน์ ล้านช้าง ในต้นรัชกาลบ้านเมืองไม่ปกติ บรรดาพระเชษฐาของพระองค์ได้พากันหลบหนีราชภัยไปซุกซ่อนอยู่ในที่ต่างๆ ท่านราชครูก็เป็นที่ระแวงของกษัตริย์ มีผู้ทูลยุยงว่าจะเป็นภัยแก่ราชสมบัติ ท่านจึงคิดอุบายพาศิษย์ โยมอพยพ ได้ถวายพระพรลาพาญาติโยมอพยพลงมาบูรณะพระธาตุพนม เมื่อได้รับอนุญาตแล้วจึงอพยพครอบครัวชาวเวียงจันทน์ คน 3,000 คน ลงมา
พ.ศ. 2233 ท่านราชครูได้บูรณะองค์พระธาตุพนมตั้งแต่ชั้นที่ 2 ขึ้นไปถึงยอด ได้หล่อเหล็กเปียก (ไหล) สวมยอด (อยู่ข้างในองค์ปัจจุบัน) พร้อมด้วยฉัตร ถึง พ.ศ. 2235 รวม 3 ปีจึงแล้วเสร็จ เมื่อซ่อมพระมหาธาตุเสร็จแล้ว ท่านได้แบ่งครัวชาวเวียงจันทน์ไว้อุปฐากพระธาตุพนมบางส่วน เหลือได้นำอพยพไปตามลำแม่น้ำโขง ไปอยู่ที่ดอนโขง ท่านเป็นผู้มีเมตตาพรหมวิหารไปยู่ที่ไหนมีประชาชนเคารพนับถือ มอบตัวเป็นศิษย์โยมเป็นอันมาก ในสมัยนั้นนครจำปาศักดิ์ยกผู้หญิง 2 คนเป็นผู้ครองเมือง คือนางเพากับนางแพงสองพี่น้อง สืบตระกูลมาจากผู้มีตระกูลชาวล้านช้างที่อพยพลงมาแต่คราวก่อน สืบต่อจากพระเจ้าสุทัศนะราชาผู้ครองเมือง ราวจุลศักราช 1,000 ปี
นางเพาและนางแพงมีความเลื่อมใสในคุณธรรมของเจ้าราชครู จึงอาราธนามาอยูจำปาศักดิ์และมอบเมืองถวายให้ท่านปกครอง ท่าราชครูได้มอบให้ศิษย์ผู้ใหญ่ดูแลแทน ต่อมาประชาชนกระด้างขึ้น มีนักเลงปล้นสะดมภ์ ท่านเห็นว่าจะปราบด้วยอาชญาร้ายแรงก็จะเศร้าหมองในสมณเพศ จึงให้ศิษย์ผู้ใหญ่ไปเชิญเอาเข้าหน่อกษัตริย์ซึ่งให้พักหลบตัวอยู่ที่บ้านพันลำสมสนุก (เขตอำเภอบึงกาฬ จังหวัดหนองคาย) เวลานี้มีพระชนม์ 20 พรรษา เมื่อเจ้าหน่อกษัตริย์ลงไปถึง ท่านได้อภิเษกขึ้นเป็นเจ้าสร้อยศรีสมุทรพุทธารกูร เจ้าผู้ครองนครเป็นเอกราชไม่ขึ้นแก่เวียงจันทน์
ท่านราชครูได้เลื่อนสมณศักดิ์เป็น "เจ้าราชครูหลวงโพนสะเม็ก" มีอำนาจฝ่ายพุทธจักร เป็นราชครูของราชตระกูลจำปาศักดิ์สืบมา เมื่ออายุได้ 90 ปี ท่านราชครูหลวงมรณภาพด้วยโรคชรา ณ วันพุธ ขึ้น 5 ค่ำ เดือน 7 พ.ศ. 2263 ประชาชนมักเรียกกันว่า "เจ้าราชครูขี้หอม" เพราะเป็นที่เคารพสูงมาก เจ้าสร้อยศรีสมุทรและศิษย์ทั้งหลายได้แบ่งอัฐิส่วนหนึ่งมาก่อเจดีย์บรรจุไว้ ณ บริเวณกำแพงธาตุพนมยังอยู่จนบัดนี้ เรียกกันว่า "ธาตุท่านขี้หอม" บ้าง " ธาตุพระอรหันต์ภายซ้อย" บ้าง (อยู่นอกกำแพงชั้น 2 มุมกำแพงด้านเหนือตะวันตก)